
จึงจำเป็นที่ทุกคนควรหันมาใส่ใจ :
1.วางแผนอพยพ กำหนดเส้นทางหนีภัยอย่างน้อย 2 เส้นทางจากทุกห้องในบ้าน และนัดจุดนัดพบกับครอบครัว
2.รวบรวมข้อมูลติดต่อ จดบันทึกเบอร์โทรฉุกเฉิน ทั้งของคนในครอบครัวและหน่วยงานช่วยเหลือ
3.เรียนรู้ทักษะปฐมพยาบาล การช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
4.ติดตามข่าวสาร เตรียมวิทยุแบบใช้ถ่านหรือไขลานเพื่อติดตามข่าวสารเมื่อไฟฟ้าดับ

การจัดกระเป๋าฉุกเฉิน (Emergency Kit) หรือที่เรียกว่า "Go Bag" เป็นสิ่งจำเป็นที่ควรมีติดบ้านและพร้อมนำติดตัวได้ทันที เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน กระเป๋านี้ควรมีของใช้จำเป็นที่เพียงพอสำหรับ 72 ชั่วโมง

- น้ำดื่มสะอาด 3 ลิตรต่อคนต่อวัน (รวม 9 ลิตรต่อคน)
- อาหารสำเร็จรูปที่ไม่ต้องแช่เย็น เช่น อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
- เครื่องเปิดกระป๋อง
- กล่องหรือถุงพลาสติกสำหรับเก็บอาหาร
- ชุดปฐมพยาบาล (พลาสเตอร์ ผ้าพันแผล แอลกอฮอล์ ยาล้างแผล)
- ยาประจำตัว (มีเพียงพอสำหรับอย่างน้อย 1 สัปดาห์)
- ยาสามัญประจำบ้าน (ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ ยาลดไข้)
- โทรศัพท์มือถือ
- ไฟฉายพร้อมถ่านสำรอง
- วิทยุแบบใช้ถ่านหรือชาร์จด้วยมือหมุน
- แบตเตอรี่สำรอง/Power Bank
- มีดอเนกประสงค์
- ไม้ขีดไฟกันน้ำ หรือไฟแช็ค
- นกหวีด (สำหรับส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ)
- เทียนไข
- เชือก
- เทปผ้า (Duct Tape)
- เสื้อผ้าสำรอง 1-2 ชุด (เน้นเสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศ)
- ชุดกันฝน/เสื้อกันฝน
- รองเท้าที่แข็งแรง
- ผ้าห่ม / ถุงนอน
- ของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น (แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่)
- กระดาษชำระ/ทิชชู่เปียก
#เอกสารสำคัญ (เก็บในถุงซิปล็อคกันน้ำ)
- สำเนาบัตรประชาชน/หนังสือเดินทาง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารประกันภัย
- สำเนาเวชระเบียน/ข้อมูลการแพ้ยา
- รายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน
- เงินสดจำนวนหนึ่ง
- อุปกรณ์สำหรับเด็กทารก (นมผง ผ้าอ้อม)
- อุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการ
- อาหารและน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยง
- ตรวจสอบกระเป๋าฉุกเฉินทุก 2-3 เดือน
- เปลี่ยนน้ำดื่ม อาหาร และถ่านไฟฉายตามอายุการใช้งาน
- เก็บกระเป๋าไว้ในที่ที่ทุกคนในบ้านทราบและสามารถหยิบได้ง่าย
- ซ้อมแผนอพยพกับครอบครัวอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- ศึกษาข้อมูลภัยพิบัติที่มีความเสี่ยงในพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่



